ไม่มีทางลัด

การปฏิบัติธรรมจับหลักให้แม่นๆ แล้วก็อดทนพากเพียรทำไป ทางลัดไม่มี ทางฟลุกๆ ไม่มี ทางเดียวเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น คือการเจริญสติปัฏฐาน พระพุทธเจ้าบอกเป็นทางสายเอก เป็นทางสายเดียวเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น ทุกวันนี้มีการเผยแพร่อะไรกันวุ่นวายไปหมด ส่วนใหญ่ก็จะโชว์ว่าเป็นทางลัด ทางลัดไม่มีหรอก มีแต่ทางหลง ฉะนั้นเราอย่าไปเห่อเรื่องทางลัด ทางพ้นทุกข์มีทางเดียวคือการเจริญสติปัฏฐาน การเจริญสติปัฏฐานในเบื้องต้นทำให้เกิดสติ เบื้องปลายทำให้เกิดปัญญา เห็นไหมเป็นเรื่องของสติ เรื่องของปัญญา ไม่ใช่เรื่องนั่งคิดธรรมะแล้วก็เพลินๆ มีความสุขไป ทุกวันนี้ชอบทางลัดเพราะขี้เกียจ เพราะขี้เกียจเอะอะก็จะหาทางลัด ทางลัดไม่มีหรอก ถ้ามีครูบาอาจารย์สอนแล้ว ถ้ามีพระพุทธเจ้าบอกไว้แล้ว เราถนัดอันไหน เราทำกรรมฐานอันนั้น นั่นทางลัดเฉพาะตัวเรา ไม่มีทางลัดทั่วไป แต่ทั้งหมดอยู่ในหลักของสติปัฏฐานนั่นล่ะ

หลักสูตรการฝึกสติคือสติปัฏฐาน

หลักสูตรในการฝึกสติก็คือสติปัฏฐานนั่นเอง ฉะนั้นสติปัฏฐานเลยเป็นเรื่องใหญ่ ตราบใดที่ยังมีผู้เจริญสติปัฏฐานอยู่ แล้วต้องทำให้ถูกด้วย การที่จะบรรลุมรรคผล ไม่เหลือวิสัย มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าเราทิ้งเรื่องของสติปัฏฐาน ให้เรานั่งสมาธิตั้งแต่หัวค่ำยันสว่าง หรือเดินจงกรมหามรุ่งหามค่ำ มันก็ไม่ได้มรรคผลอะไรหรอก เพราะฉะนั้นเราชาวพุทธต้องรู้จักหัดเจริญสติปัฏฐานให้ได้ การเจริญสติปัฏฐานมันมี 2 อย่างซ้อนกันอยู่ เบื้องต้น เราฝึกเพื่อให้เกิดสติ เบื้องปลายเราฝึกเพื่อให้เกิดปัญญา 2 อย่างนี้ได้มาด้วยการเจริญสติปัฏฐาน สติ ทำอย่างไรมันจะเกิด สติเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีสติก็ไม่มีศีล ไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ ไม่มีสติก็ไม่มีปัญญา สติเป็นองค์ธรรมฝ่ายกุศล จิตที่เป็นกุศลทุกดวงต้องมีสติ อกุศลไม่มีสติหรอก ฉะนั้นสติไม่ใช่เรื่องเล็กๆ